

1. ดูดไขมันทั้งตัวคืออะไร
เป็นไขมันส่วนเกิน ตำแหน่งยอดฮิตที่คนมักเลือกดูดไขมันปรับรูปร่างให้ดูเล็กลง กระชับขึ้น ได้แก่ หน้าท้อง, เอวเอส, ต้นขา, ขานอก, ขาใน, สะโพก, แขน, น่อง, เหนียง เป็นต้น
การดูดไขมันได้ผลถาวรเลยไหม? ตอบเลยว่า ไม่ใช่ เนื่องจากสำหรับการดูดไขมันในบริเวณต่างๆ ก็ไม่ได้การันตีว่าไขมันจะหมดไปอย่างถาวร เพียงแต่ช่วยให้ดีขึ้นเท่านั้น สมมุติมีไขมันอยู่ 100% หลังดูดออกอย่างมากจะออกไป 60% ของไขมันทั้งหมด หลังจากนั้นไขมันก็อาจจะกลับมาใหม่ เวลาทานอะไรเข้าไป แต่อาจจะกลับมาไม่ถึง 100% โดยอาจจะกลับมาแค่ 80% เท่านั้น แต่ถ้าหากไม่มีการควบคุมอาหารที่ดีพอ และไม่ออกกำลังกายเลย ไขมันก็อาจกลับมาเท่าเดิมได้เช่นกัน
2. ดูดไขมันทั้งตัว เหมาะสมกับใคร
* เหมาะกับคนที่มีค่า BMI มากกว่า 24ขึ้นไป โดยค่า BMI คิดจากน้ำหนัก(กิโลกรัม) / ส่วนสูง(เมตร)ยกกำลัง2
* เหมาะกับคนที่สัดส่วนบางส่วน ไม่เข้ารูป ไม่ชอบ หรือยังไม่ได้สัดส่วนที่ต้องการ
* เหมาะกับคนที่สุขภาพดี โดยเฉพาะไม่มีปัญหาด้านการแข็งตัวของเลือด เบาหวาน โรคหัวใจ เป็นต้น
* เหมาะกับคนที่มีความพร้อมในการดูแลตัวเอง หลังการดูดไขมัน อาทิ ควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย และปฏิบัติตัวตามแพทย์สั่ง

3. การเตรียมตัวก่อนดูดไขมันทั้งตัว

4. ข้อมูลการผ่าตัดดูดไขมัน

5. ขั้นตอนการดูดไขมันทั้งตัว
* แพทย์จะทำการออกแบบรูปร่างของคนไข้ โดยทำการกำหนดจุดบริเวณที่ต้องการนำไขมันออกจากร่างกาย
* เมื่อกำหนดจุดเสร็จ วิสัญญีแพทย์ผู้ชำนาญการจะทำการวางยาสลบ และคอยดูแลตลอดการผ่าตัด
* คุณหมอจะเปิดแผลขนาดเล็ก ขนาดประมาน2-3 mm สำหรับใช้เครื่องดูดไขมันสอดเข้าสู่ร่างกายในจุดที่ต้องการสลายไขมันได้ โดยในขั้นตอนนี้คุณหมอ ต้องใช้ความชำนาญอย่างมาก
* จุดที่มีแผลในร่างกาย จะอยู่ในจุดซ่อนแผลทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นตาม รักแร้,ข้อพับแขน,ข้อพับหัวเข่า,ขอบบิกินี่
* หลังทำเสร็จ จะพาไปห้องพักฟื้น VIP เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวที่โรงพยาบาล 1-2 วัน หากไม่พบความผิดปกติ คนไข้สามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้
6. วิธีดูแลหลังจากดูดไขมัน
* หลังการดูดไขมัน อาจมีอาการปวด บวมแดง ช้ำ ตามร่างกายบางจุดได้โดยอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับและจะหายสนิทดีในระยะ 2-3 เดือนหลังเข้ารับการดูดไขมัน
* ในช่วง 7 วันแรกคุณหมอจะใส่ผ้ารัดหน้าท้อง ระวังอย่าให้แผลโดนน้ำ
* ควรใส่ชุดกระชับรูปร่าง ในช่วง 1-2 เดือนแรก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีมากยิ่งขึ้น ไม่จำเป็นต้องใส่ตลอด 24 ชั่วโมง ใส่เฉพาะช่วงที่มีการออกไปทำกิจกรรมข้างนอก และถอดในเวลานอนได้ ซึ่งการใส่ชุดกระชับรูปร่างจะช่วยให้รูปร่างกระชับและได้รูปทรงเร็วยิ่งขึ้น
* เลี่ยงการรับประทาน ของมัน และหวาน เพื่อลดการสะสมของไขมันในอนาคต
* สามารถออกกำลังกายเบาๆ ได้ตามปกติ ประมาณสัปดาห์ที่ 2-3 ขึ้นไป เพื่อหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บที่อาจขึ้นได้จากการออกกำลังกาย
* ประมาณสัปดาห์ที่ 3-4 ขึ้นไป ควรใช้มือนวดบริเวณหน้าท้องเป็นประจำ เพื่อลดการเกิดก้อนแข็งตามร่างกาย
* คุณหมอจะนัดเข้ามาเพื่อติดตามผล Follow up 7 วัน (เพื่อทำการตัดไหม และทำความสะอาดแผล) Follow up 1,3,6 เดือน ตามลำดับ
*หมายเหตุ ต้องรู้ก่อนว่าการดูดไขมัน = ไม่ใช่การลดน้ำหนัก ข้อนี้คือสิ่งสำคัญที่ต้องรู้ก่อน เพราะการดูดไขมันเป็นการนำเซลล์ไขมันออกจากร่างกายเฉพาะจุด โดยที่มวลไขมันจะลดลง แต่ไม่ใช่การทำให้น้ำหนักลดดังนั้นหากดูดไขมันแล้ว แต่น้ำหนักยังเท่าเดิม หรือลดลงเพียงเล็กน้อยก็ไม่ต้องแปลกใจไป
ผลลัพธ์หลังจากดูดไขมันทั้งตัว
* หน้าท้อง ดูเท่ ดูเฟิร์ม
* ช่วยเพิ่มความมั่นใจในรูปร่างมากขึ้น
* รูปร่างดูสมส่วนขึ้น เซ็กซี่ขึ้น
* นมเล็กลง นมไม่แหลม ใส่เสื้อผ้ามั่นใจ

ทำไมต้องดูดไขมันกับหมอปริญ ทัศนาวิวัฒน์
* เป็นคุณหมอในประเทศไทยเพียงท่านเดียวที่จบหลักสูตรการดูดไขมันจากประเทศโคลัมเบีย(ผู้คิดค้นเทคนิคการสร้างซิกแพคจากการดูดไขมัน)
* เทคนิคการดูดไขมันซ่อนแผลหมดกังวลเรื่องเห็นแผลเพราะมีขนาดแผลเพียง 2-3 mm เท่านั้น
* เทคนิคพิเศษไม่ใช่เพียงแค่การดูดไขมันออกเท่านั้น แต่เป็นการตกแต่งกล้ามเนื้อให้ดูสวยงาม เทียบเท่ากับคนที่ตั้งใจออกกำลังกายดูแลสุขภาพ
* คุณหมอมีชื่อเสียง และเป็นคุณหมอประจำในโรงพยาบาลระดับชั้นนำ
– โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
– โรงพยาบาลสมิติเวชศรีนครินทร์
– โรงพยาบาลนวเวช
* ปลอดภัย มั่นใจ ไร้กังวล ดารานักแสดงหลายท่านดูดไขมันกับคุณหมอปริญ
* การันตีจากชาวต่างชาติ บินตรงมาทำกับคุณหมอปริญ
* ติดตามผลและดูแลหลังการดูดไขมันทุกเคส Follow up ตลอด 2 ปีเต็ม